ช่วงแรก

เมื่อครั้งที่จักรกฤษย้ายจากฝรั่งเศสมาไทย เขาได้ไปทดสอบฝีเท้ากับบีอีซี เทโรศาสน (โปลิศ เทโรในปัจจุบัน) แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เซ็นสัญญา ทำให้เขาได้ย้ายไปอ่างทองในไทยลีกดิวิชัน 1 (ไทยลีก 2 ในปัจจุบัน) โดยเซ็นสัญญา 2 ปี[1]

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 จักรกฤษย้ายมาร่วมทีมบางกอกกล๊าส (บีจี ปทุม ยูไนเต็ดในปัจจุบัน) ในไทยลีก[3] ต่อมาในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน สโมสรประกาศว่าจักรกฤษจะย้ายไปเล่นให้กับโทกูชิมะ วอร์ติสในเจลีก 2 ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปี[4] อย่างไรก็ตาม เขาได้ลงเล่นให้กับวอร์ติสเพียงแค่นัดเดียวในเอ็มเพอเรอส์คัพ ทำให้เขาย้ายกลับบีจีในช่วงเลกสองของไทยลีก 2 ฤดูกาล 2562[5] และมีส่วนช่วยให้บีจีชนะเลิศไทยลีก 2 จนเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 จักรกฤษตกลงยกเลิกสัญญากับบีจี[6]

สมุทรปราการ ซิตี้

หลังจากที่ยกเลิกสัญญากับบีจีเพียงหนึ่งสัปดาห์ จักรกฤษได้ย้ายไปสมุทรปราการ ซิตี้ โดยเขาสวมเสื้อหมายเลข 10 แทนที่เปดรู ฌูนีโยร์ที่เพิ่งย้ายออกไป[7]

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2564 สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ทำการเปิดตัวจักรกฤษ ลาภตระกูล อย่างเป็นทางการ โดยเขาจะสวมเสื้อหมายเลข 17[8][9] ต่อมาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 จักรกฤษได้ลงเล่นนัดแรกให้กับสโมสรในการแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ 2563–64 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งบุรีรัมย์บุกไปเสมอกับการท่าเรือแบบไร้ประตู ก่อนที่จะเอาชนะด้วยการยิงลูกโทษไปได้ 9–8 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ[10] ต่อมาในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เขาทำประตูแรกในลีกและในสีเสื้อสโมสร ช่วยให้บุรีรัมย์บุกเอาชนะระยอง 5–0[11] ต่อมาวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2564 เขาทำประตูที่ 2 ในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะสุโขทัย 3–0[12]